ตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามติดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังสุขภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ฟื้นตัวได้ดีและสามารถกลับมาทำเนียบขาวได้ พร้อมข่าวดีเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเปิดตลาดในช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.88% ดัชนีนิกเคอิ 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.43% ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ 0.62% และดัชนี S&P/ASW200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.20%
ขณะที่ดัชนี MSCI ของเอเชียโดยรวม ยกเว้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.68% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันหยุด
บรรยากาศตลาดหุ้นในเอเชียเริ่มฟื้นตัวจากการเทขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังอาการของประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดี อีกทั้งยังมีข่าวดีเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเอเชียเป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อคืนนี้ ที่ปิดตลาดปรับตัวในแดนบวก โดยมีหุ้นในกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยี และการดูแลสุขภาพ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวน์โจนส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1.7% ดัชนีS&P500 เพิ่มขึ้น 1.8% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 2.3%
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ยังส่งผลให้นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีรายงานของทีมแพทย์ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่หายขาด โดยตลาดตราสารและอนุพันธ์มีการซื้อขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อ้ตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1.5930%
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวเหนือเส้นระนาบเล็กน้อย โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดฟิวเจอร์สปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 41.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในตลาดฟิวเจอร์สอยู่ที่ 39.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล