บรรยากาศของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปรับตัวบวกเล็กน้อยรับเปิดตลาดวันแรกในรอบสัปดาห์นี้ โดยเป็นผลจากสัญญาณบวกข่าวดีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ๋ในภูมิภาคอย่างจีน กระนั้น นักวิเคราะห์คาดความเคลื่อนไหวโดยรวมของตลาดตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมายังไม่ค่อยฟื้นตัวดีนัก เพราะยังมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายของวิกฤตไวรัสโควิด-19
โดยดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.48% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 0.3% และดัชนีเสิ่นเจิ้น คอมโพเนนท์ เพิ่มขึ้น 0.14%
ทิศทางตลาดหุ้นจีนในแดนบวกมีขึ้นหลังมีรายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระบุว่า ผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.1% สะท้อนให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียจากวิกฤตโควิด-19 ระบาด
การฟื้นตัวของจีนยังส่งผลต่อบรรยากาศโดยรวมในภูมิภาค โดยดัชนีนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่นเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.72% ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 1.29% ดัชนี S&P/ASX200 เพิ่มขึ้น 0.11% และดัชนีMSCI ภาพรวมของตลาดเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.55%
แม้จะมีสัญญาณทิศทางบวก แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ทิศทางตลาดหุ้นตลอดทั้งเดือนกันยายนนี้มีสิทธิ์ปิดตลาดปรับตัวในแดนลบ โดยเป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนส่วนใหญ่ต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ช่วงที่ผ่านมาทิศทางตลาดจึงค่อนข้างผันผวน
ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีประเด็นให้จับตามองอย่างการขึ้นเวทีดีเบตระหว่างสองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง โจ ไบเดน และ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยนักลงทุนต่างต้องการฟังแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของว่าที่ผู้นำคนต่อไป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีปัจจัยให้ต้องกังวลอย่างการประชุมหารือเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ที่ตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายจะมีการเจรจาหารือกันอีกครั้งในรอบสัปดาห์นี้
ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมาเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีแนวโน้มว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะลดลงอีกครั้งเพราะมาตรการจำกัดการเดินทาง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ในตลาดฟิวเจอร์ส ปรับตัวลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 41.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัสในตลาดฟิวเจอร์ส ลดลง 0.37% มาอยู่ที่ 40.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนราคาทองคำวันนี้ ทรงตัวอยู่ที่ 1,860.5 ดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มคงที่อยู่ในระดับดังกล่าวหลังทำสถิติสูงสุดที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา