ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดส่งท้ายปี (31ธ.ค.) ดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดบวก แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากได้แรงหนุนจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังและการเงิน พยุงเศรษฐกิจและความคืบหน้าของวัคซีน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 195.92 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 30,606.48 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 18.28 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,888.28 จุดเอส
แอนด์พี เพิ่มขึ้น 24.03 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,756.07 จุด
ในช่วงปีที่ มีทั้งการทำสถิติตลาดกระทิงยาวนานที่สุด และมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ของรัฐบาลต่างๆที่ทุบทำลายเศรษฐกิจ เอสแอนด์พี 500 ดีดตัวขึ้นมาถึง 66% จากระดับต่ำสุดในวันที่ 23 มีนาคม
ตลาดหุ้นยุโรป(31 ธ.ค.) ปิดปรับตัวลง โดยนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,551.41 จุด ลดลง 48.00 จุด หรือ (-0.86%)
DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 13,718.78 จุด ลดลง 42.60 จุด (-0.31%)
FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,460.52 จุด ลดลง 95.30 จุด (-1.45%)
ราคาทองคำ (31ธ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย จากดอลลาร์แข็งค่า โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,895.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาน้ำมัน (31ธ.ค.) ปิดลบ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 12 เซ็นต์ ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 17 เซ็นต์ ปิดที่ 51.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : สรุป 8 เหตุการณ์สำคัญตลาดหุ้นโลกในปี 2020 ,