ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดตลาดวันนี้ (14 ต.ค.) พร้อมใจปรับตัวลดลงทั่วหน้า หลังการทดลองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทชั้นนำในสหรัฐฯ ต้องหยุดชะงักด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย สร้างความไม่เชื่อมั่นในหมู่นักลงทุน
โดยดัชนีนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.23% ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ลดลง 0.6% ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิท ลดลง 0.29% และดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 0.36%
ด้านดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 0.12% ขณะที่ ดัชนีสเตรท ไทมส์ ของสิงคโปร์ร่วงลง 0.4% หลังทางการเปิดเผยตัวเลขประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 พบหดตัวลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งดูจากดัชนี MSCI ปรับตัวลดลง 0.7%
ความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นวันนี้ มีขึ้นหลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศระงับการทดสอบวัคซีนของ Eli Lilly เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย โดยก่อนหน้านี้ ทางจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็เพิ่งจะประกาศหยุดขั้นตอนการทดลองใช้วัคซีนเพราะมีผู้เข้าร่วมการทดลองรายหนึ่งมีอาการป่วยที่ไม่สามารถอธิบายได้
ขณะเดียวกัน เมื่อบวกกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเร็ววัน ทำให้นักลงทุนหวั่นไหวแห่เทขายหุ้นมากขึ้นเพื่อหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ และพันธบัตรรัฐบาล
เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ ปิดปรับตัวในแดนลบทั่วหน้า โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ลดลง 0.6% ดัชนีS&P 500 ลดลง 0.6% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ลดลง 0.1%
ส่วนประเด็นที่นักลงทุนจับตามองในวันนี้ก็คือสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้นำจีนจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความสำคัญของเขตเศรษฐกิจพิเศษเสิ่นเจิ้น และเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ในฐานะแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตามองหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นซัพพลายเออร์ให้แก่ Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลกที่ได้เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในราคาที่แพงกว่ารุ่นเดิม ซึ่งหุ้นของ Apple ปิดตลาดเมื่อวานนี้ลดลง 2.65% แต่สามารถปรับตัวบวกขึ้นมาได้ 0.16% ในช่วงขยายเวลาซื้อขาย