
ดร.ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี (กลาง) ประธานกรรมการ และนายพลแสง แซ่เบ๊ (ที่ 5 จากขวา) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท ร่วมนำเสนอข้อมูลต่อคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผ่านการประชุมออนไลน์ ณ สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
โดย PLUS กำหนดการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์ )หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 25.4% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ตามแผนการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ PLUS เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรายใหญ่ โดยมีการผลิตและขายสินค้าใน 2 ลักษณะ ทั้งการรับจ้างผลิต (OEM) และภายใต้แบรนด์ที่ PLUS พัฒนาเอง (Company Brand) เพื่อขยายตลาด และตอบโจทย์ธุรกิจตามแผนการเติบโตในระยะยาว โดยสินค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
1.กลุ่มน้ำผลไม้ มีสัดส่วนประมาณ 98% ของรายได้จากการขายทั้งหมด โดยเครื่องดื่มกลุ่มน้ำมะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับสูงสุด ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำมะพร้าวและเครื่องดื่มน้ำนมมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ Coco Royal เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลักและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมเมล็ดเชีย แบรนด์ Nita และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ Coco Royal และ Mabu
2.กลุ่มเครื่องดื่มทั่วไป ได้แก่ ชานม แบรนด์ Mabu เครื่องดื่มวิตามิน แบรนด์ C-Boom และเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น นมถั่วเหลือง เครื่องดื่มกาแฟผสมน้ำนมมะพร้าว แบรนด์ Coco Coff
จากกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ส่งผลให้ PLUS มีรายได้จากการขายอยู่ในรูปสกุลเงินต่างประเทศในสัดส่วนสูง ซึ่งแม้ว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าตั้งแต่ปี 2561 แต่รายได้ของ PLUS ระหว่างปี 2561–2563 ยังสามารถเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 11.9%
โดย PLUS มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเป็นหลักในปี 2563 และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 อยู่ที่ 98.9% และ 98.7% ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าหลักอยู่ในทวีปต่าง ๆ ได้แก่ ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชีย และทวีปยุโรป
ทั้งนี้ PLUS ได้รับการรับรองคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลหลายรายการ ได้แก่ ISO 22000, FSSC 22000, GMP, HACCP และ FDA Standard ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 486.1 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 38.4 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 26.0% และอัตรากำไรสุทธิ 7.8%
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : บมจ. โรแยล พลัส