ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของการเจรจาในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดยดัชนีนิกเคอิ225 ของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.32% ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.39% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.81% และดัชนีS&P/ASX200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.14%
ด้านดัชนี MSCI ภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่นปรับขึ้น 0.45%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่กลับเปิดตลาดในแดนลบ โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ลดลง 0.17% และดัชนีเสิ่นเจิ้น คอมโพเนนท์ ลดลง0.266%
ทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในเอเชียเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเริ่มมีความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังการเจรจามีความคืบหน้า อีกทั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังกล่าวว่า ยินดีที่จะยอมรับแผนช่วยเหลือเศรษฐกิจประเทศครั้งใหญ่แม้จะได้รับการคัดค้านจากคนในพรรครีพับลิกันก็ตาม
ข่าวดีดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ปิดปรับตัวขึ้น 0.4% ดัชนีS&P500 เพิ่มขึ้น 0.5% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 0.3%
แม้จะมีข่าวดีให้ได้หวัง แต่บรรยากาศการลงทุนในตลาดยังคงแวดล้อมด้วยปัจจัยไม่แน่นอนอย่างสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดเอเชียและตลาดทั่วโลกจะคงอยู่ในสภาวะผันผวนต่อไปอีกสักระยะ
ด้านราคาน้ำมันวันนี้ปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดฟิวเจอร์สลดลง 0.63% มาอยู่ที่ 42.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัสในตลาดฟิวเจอร์สลดลง 0.67% มาอยู่ที่ 41.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณความต้องการบริโภคน้ำมันในตลาด และการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของลิเบีย