ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเอเชียในช่วงครึ่งวันเช้าวันนี้ปรับตัวอยู่ในแดนบวกทั่วหน้า รับอานิสงค์ข่าวดีจากทั้งคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 และสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้นักลงทุนมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยดัชนีนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเกือบ 2% หรือราว 1.21% เช่นเดียวกับดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ปรับตัวอยู่ที่ราว 1% ดัชนี S&P/ASX200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.77% และดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 0.41%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนแม้ช่วงเปิดตลาดจะปรับตัวขึ้น 0.5% แต่กลับปรับตัวลดลงในช่วงใกล้เที่ยงจนมาอยู่ในแดนลบที่ 0.22% และดัชนีเสิ่นเจิ้น คอมโพเนนท์ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
ด้านดัชนี MSCI ภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.62%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกในวันนี้ได้รับอิทธิพลจากความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลสตรีทในช่วงคืนที่ผ่ามา ที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ทำสถิติใหม่ปิดตลาดทะลุ 30,000 จุดเป็นครั้งแรก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน บวกกับข่าวการกลับมาของอดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่าง นางเจนเน็ต เยลเลน ในฐานะว่าที่ขุนคลังหญิงของรัฐบาลชุดใหม่
โดยสัญญาณการเปลี่ยนผ่านเริ่มมีความชัดเจนขึ้น และช่วยยุติความไม่แน่นอนทางการเมือง เมื่อองค์กรกำกับการบริหารงานภาครัฐแห่งสหรัฐฯ (GSA) ประกาศยอมรับชัยชนะของนายโจ ไบเดนในกาารเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งการยอมรับดังกล่าว จะทำให้กระบวนการส่งมอบอำนาจเริ่มต้นขึ้น โดยหมายถึงการส่งต่อข้อมูลที่เป็นความลับ ปฎิบัติการลับทางการทหาร และการตัดสินใจต่างๆ ที่ยังค้างคาอยู่ของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดยังได้ความหวังเรื่องการพัฒนาวัคซีน ที่ทำให้รัฐบาลทั่วโลกสามารถพิจารณาผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และเริ่มมองเห็นโอกาสของการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศอีกครั้ง เช่น กรณีของรัฐบาลจีนกับญี่ปุ่นที่บรรลุข้อตกลงเตรียมผ่อนปรนการเดินทางทางอากาศเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจระหว่างกันภายในเดือนนี้
ในส่วนความคืบหน้าของวัคซีน รัฐบาลหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐฯ ต่างบรรลุข้อตกลงกับบริษัทผู้คิดค้นและพัฒนาในการผลิตวัคซีนออกมาใช้งานให้แก่กลุ่มที่มีความเสียงสูงสุดในสังคมก่อน อย่าง เจ้าหน้าที่ทางการและบุคลากรทางการแพทย์โดยคาดว่าน่าจะสามารถแจกจ่ายวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ชุดแรกได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาส
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังเตรียมผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ราคาถูกออกมาใช้งานแล้วเช่นกัน
ความคึกคักของตลาดในช่วงนี้ยังคงส่งต่อทิศทางความเคลือนไหวของราคาทองคำและน้ำมัน โดยราคาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์สของเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เริ่มต้นด้วยราคาน้ำมันดิบเบรนต์ในตลาดฟิวเจอร์สที่ปรับตัวขึ้น 1.44% มาอยู่ที่ 48.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ในตลาดฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น 1.45% มาอยู่ที่ 45.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ด้านราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 1,830 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,811.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เริ่มลดน้อยลง
ที่มา CNBC REUTERS