ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกเปิดตลาดปรับตัวในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากข่าวดีสัญญาณเศรษฐกิจของจีน ยักษ์ใหญ่มหาอำนาจของเอเชียฟื้นฟูและขยายตัวได้บ้างแล้วอย่างช้าๆ
โดยดัชนีนิกเคอิ225ของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.01% ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.58% และดัชนีASX200ของออสเตรเลียปรับตัวบวก 0.33%
ด้านดัชนี MSCI ภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนอยู่ในระดับทรงตัว ก่อนที่ช่วงสายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.33% เช่นเดียวกันกับดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.90%
ทิศทางของตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวดีของเศรษฐกิจหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI)ของเดือนตุลาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 51.4 จุด ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 จุด สะท้อนให้เห็นการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของตลาดตลอดทั้งสัปดาห์ยังคงมีความผันผวน โดยนักลงทุนยังคงมีปัจจัยวิตกให้ตกจับตามองอย่างสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในฝั่งยุโรป ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน จนทำให้ทางการหลายประเทศ รวมถึง อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ประเทศยักษ์ใหญ๋ด้านเศรษฐกิจของฝั่งยุโรป ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดมากขึ้น
ด้านสหรัฐฯ นักลงทุนทั้งหลายต่างรอลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของหสรัฐฯ ที่ผลสำรวจล่าสุดต่างเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ท้าชิงอย่าง โจ ไบเดน จะมีโอกาสคว้าชัยเหนือ “โดนัลด์ ทรัมป์” แบบเฉียดฉิว
นักวิเคราะห์มองว่า ชัยชนะของไบเดนจะส่งผลบวกต่อตลาดในระยะสั้นแต่เป็นผลลบในระยะยาว เนื่องจากการให้ความสำคัญกับนโยบายด้านภาษีของไบเดนมากกว่าประโยชน์ของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
การระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เพราะการยกระดับมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้ปริมาณความต้องการใช้มีแนวโน้มลดน้อยลง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงมาอยู่ที่ 35.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสลดลงมาอยู่ที่ 33.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ปัจจัยไม่แน่นอนรอบด้าน ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะยังคงผันผวนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ