ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ย.) ปรับตัวบวกเล็กน้อยในบางตลาด โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รายวันในสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่่สุดในตลาดเอเชียที่ 1.68% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.53% และดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ช่วงสายจะปรับตัวลดลงมาในแดนลบที่ 0.25%
ด้านดัชนี S&P/ASX200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.54% และดัชนีMSCI ภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.62%
ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในวันนี้ปิดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ
บรรยากาศการลงทุนภายในภูมิภาคยังเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังไม่อาจวางใจเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และภูมิภาคยุโรป แม้มีข่าวดีเรื่องความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19แล้วก็ตาม
สถานการณ์การระบาดของไวรัสที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกได้ยกระดับมาตรการล็อกดาวน์และเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดอีกครั้ง โดยล่าสุด คือประเทศเกาหลีใต้ ที่รัฐบาลเตรียมประกาศยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างสำหรับพื้นที่ในเขตกรุงโซล เมืองหลวงของประเทศ และภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ในสหรัฐฯ เพิ่งจะมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนคน
นักวิเคราะห์ต่างหวั่นเกรงว่า การระบาดที่ยังไม่คลี่คลายจะกระทบต่อเศษฐกิจการค้าในช่วงปลายปีที่จะต้องคึกคักรับเทศกาลขอบคุณพระเจ้าและเทศกาลคริสต์มาส
ในส่วนของหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับความสนใจในวันนี้ คือหุ้นของสายการบิน ซึ่งปรับตัวลดลงสวนทางกับความเคลื่อนไหวในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยสายการบิน Cathay Pacific ของฮ่องกง ดิ่งลง 4.35% สายการบิน China Eastern Airlines ลดลง 2.01%. และสายการบิน Singapore Airlines ในตลาดฮ่องกงลดลง 0.73%
เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะ การเลื่อนมาตรการเดินทางระหว่างสิงคโปร์กับเกาะฮ่องกง (travel bubble) ออกไปจากกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในฮ่องกง
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวบวกเล็กน้อย โดย ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.11% มาอยู่ที่ 45.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 42.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ที่มา CNBC