ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) ปรับตัวร่วงหนักทั้งภูมิภาค ตามหลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและยุโรป เหตุนักลงทุนหวาดวิตกต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในโลกฝั่งตะวันตกจนอาจต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ขนานใหญ่ระลอก 2
ทั้งนี้ ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ กลายเป็นดัชนีที่ร่วงลงมาที่สุดของภูมิภาคในการเปิดตลาดเช้าวันนี้ โดยปรับตัวลดลงถึง 1.78% ตามด้วยs S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียที่ลดลง 1.24%
ด้านดัชนีนิกเคอิ225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.68% ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตลดลง 0.73% และดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ลดลง 1.24%
สำหรับดัชนี MSCI ภาพรวมของเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ลดลง 0.43%
ความเคลื่อนไหวในแดนลบของตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกในช่วงเช้าวันนี้เป็นผลมาจากการที่นักลงทุนรู้สึกหวาดวิตกต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในยุโรปและสหรัฐฯ โดยในยุโรป รัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศส ได้ออกประกาศคุมเข้มภาคธุรกิจส่วนหนึ่งหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ในสหรัฐฯ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติรายวันสูงสุด 3 วันติดต่อกันแล้ว
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะต้องมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ระลอก 2 เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะสภาพภูมิอากาศที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวที่ทำให้เชื้ออยู่ในอากาศได้นานขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนีดาวน์โจนส์ปิดตลาดปรับตัวร่วงลงถึง 943.24 จุด หรือ 3.4% ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.5% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ลดลง 3.7%
นักวิเคราะห์ประเมินว่า สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 จะยังคงส่งผลต่อการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนในช่วงเวลานี้ รวมถึงส่งผลให้นักลงทุนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และทองคำ