ตลาดหุ้นหลักในหลายประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิกพร้อมใจปรับตัวร่วงลงในช่วงเปิดตลาดเช้าวันนี้ (22 ต.ค.) หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งภูมิภาคปี 2020 ที่ -2.2%
ดัชนีนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่นปรับตัวร่วงลง 0.46% ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ลดลง 0.77% ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ลดลง 0.01% และดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ลดลง 0.23%
ด้านดัชนี S&P/ASX200 ของออสเตรเลียลดลง 0.78% และดัชนี MSCI ของเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ลดลง 0.34%
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในวันนี้มีขึ้น หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปีนี้ว่าจะอยู่ที่ -2.2% นับเป็นผลลัพธ์ที่IMFระบุว่าเลวร้ายที่สุดของภูมิภาคตั้งแต่ที่จำความได้
Jonathan D. Ostry รักษาการผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า รายงาน Regional Economic Outlook ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เริ่มมีการฟื้นตัวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในไตรมาส 3 แล้ว แต่เครื่องยนต์ในการเติบโตทุกเครื่องกลับไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยพลังที่เท่ากันทั่วประเทศ ทำไห้ความเร็วในการฟื้นตัวแตกต่างกันไป
ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวของการเจรจาแผนกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ จากวิกฤตโควิด-19 โดยช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์โดยเฉลี่ยปรับตัวลดลง 0.4% ดัชนีS&P500 ลดลง 0.2% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ลดลง 0.3%
ด้านราคาน้ำมันยังปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ในตลาดฟิวเจอร์สเปิดตลาดช่วงเช้าลดลง 0.17% มาอยู่ที่ 41.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส ลดลง 0.25% มาอยู่ที่ 39.93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
นักวิเคราะห์เตือนว่า นักลงทุนในตลาดเอเชียต้องเตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับสภาวะผันผวนไม่ราบรื่นในช่วงนี้ ตราบใดที่แผนกระตุ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีความชัดเจน