ข่าวดีวัคซีนโควิด-19 ยังมีผล ดันหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวบวกต่อ

Must read

ดัชนีตลาดหุ้นทั่วเอเชียแปซิฟิกยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองหลังข่าวดีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยนักลงทุนหวังให้กิจกรรมภาคธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ตามปกติอีกครั้ง

ทั้งนี้ ดัชนีนิกเคอิ225 ของญี่ปุ่น เปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.17% ขณะที่ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.75% และดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.43%

ส่วนดัชนี MSCI ภาพรวมของตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.23%

ทิศทางบวกของตลาดหุ้นเอเชียใวันนี้ เป็นผลจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลและมีความหวังต่อการจัดการกำราบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้การติดต่อค้าขายและการเดินทางขนส่งแลกเปลี่ยนสินค้าทั่วโลกกลับมาดำเนินการได้ตามปกติในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของตลาดจีนกลับไปในทิศทางตรงกันข้า มโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตปรับตัวลดลง 0.13% ดัชนีเสิ่นเจิ้น คอมโพเนนท์ ลดลง 0.302% และดัชนีฮั่งเส็ขอวฮ่องกงลดลง 0.18%.

โดยตลาดหุ้นจีนได้รับอิทธิพลเชิงลบจากความเคลื่อนไหวของทางการจีนที่เข้ามากวดขันกิจกรรมในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนวัตกรรมอย่างเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ รวมถึง การผูกขาด ทำให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ทิศทางการลงทุนของนักลงทุนในตลาดเอเชียที่หันหน้าหนีหุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา

ซึ่งดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับดัชนีS&P500 และดัชนีแนสแด็กคอมโพสิต หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการเทขาย เพราะข่าวดีเรื่องวัคซีนทำให้นักลงทุนมองว่า หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19 จะกลับมาอยู่ในช่วงขาลงอีกครั้ง

ทั้งนี้ ช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนีดาวน์โจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 290 จุด แต่ดัชนี S&P 500 และดัชนีแนสแด็กคอมโพสิต ปรับตัวลดลง 0.1% และ 1.4% ตามลำดับ

ในส่วนของราคาน้ำมันวันนี้ เปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น โดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ราคาก 43.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ในตลาดอยู่ทีเอเชียฟิวเจอร์สปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 41.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ที่มา CNBC REUTERS

- Advertisement -spot_img

More articles

Latest article