ASPS ประเมินกำไรบจ.ปี 64 ที่ 7.19 แสนลบ. คิดเป็น ESP ที่ 65.04 บาท/หุ้น หรือ เพิ่มขึ้น 38% จากปี 63 ชี้ยังมีอัพไซด์จากหุ้นกลุ่มพลังงาน รับราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่อง หนุนกำไรโตดี ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ยัง Laggard ตลาดหุ้นในภูมิภาค
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส ( ASPS) เผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า เแนวโน้มกำไรปีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 64 ฝ่ายวิจัยฯประเมิน Downside มีไม่มากนัก แม้ประเด็น COVID-19 ยืดเยื้อ เพราะ 4 Sector ที่โดนผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVIDในรอบแรก ในภาวะปกติมีสัดส่วนกำไรรวมกันประมาณ 4% ของทั้งตลาดเท่านั้น ได้แก่ AUTO (ยานยนต์) TOURISM(การท่องเที่ยวและสันทนาการ) MEDIA(สื่อและสิ่งพิมพ์) และ TRANS(ขนส่งและโลจิสติกส์)
และยังมี Upside เพิ่มเติมจากกำไรของหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบยืนในระดับสูงใกล้ 60 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี โดย ฝ่ายวิจัยมีสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 50เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งปกติทุกๆ 5 เหรียญของราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นสูงกว่าสมมุติฐาน ช่วยหนุนให้กำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นราว 1 หมื่นล้านบาท
ภาพรวมฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประเมินกำไรสุทธิปี 64F ที่ 7.19 แสนล้านบาท คิดเป็น ESP64F อยู่ที่ 65.04 บาท/หุ้น (เพิ่มขึ้น 38%yoy) และเป็นการฟื้นตัวลำดับต้นๆ ของตลาดหุ้นในแถบ Emerging Market อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นไทยยัง Laggard ตลาดหุ้นในภูมิภาคอยู่มาก โดยปรับตัวขึ้นเพียง 2.3%ytd ขณะที่เกาหลีใต้และไต้หวันปรับตัวขึ้น 7.5% และ 6.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนนกำไรสุทธิของ บจ. ทั้งปี 63 ที่ 5.18 แสนล้านบาท ( EPS 47.11 บาท/หุ้น ) ช่วง 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 3.54 แสนล้านบาท ดังนั้นงบ 4Q63 จะต้องทำได้ 1.63 แสนล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้อยู่ เนื่องจากปัจจุบันประกาศงบ 4Q63 ออกมาเพียง 24 บริษัท (คิดเป็น 17% ของ Market Cap) ทำกำไรรวมกัน 5.15 หมื่นล้านบาท (ลดลง 22%YoY) แสดงว่าบริษัทที่เหลือกว่า 83% ของ Market Cap) จะต้องทำกำไรรวมกันได้ 1.1 แสนล้านบาท ลดลง 26%YoY ถือว่าไม่ยากที่จะทำได้ตามเป้าหมาย