Bitcoin เมื่อคืนวันที่ 16 ธันวาคม 20202 สามารถพุ่งเหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จซึ่งเป็นการทำ ATH ครั้งที่สองในปีนี้ ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับบิทคอยน์ได้สำเร็จ
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของบิทคอยน์พุ่งสู่ระดับ 200% เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเข้าถือลงทุนบิทคอยน์โดยนักลงทุนสถาบันอย่าง Microstrategy,Square ตลอดจนการถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในภาวะวิกฤตโควิดรวมไปถึงการเกิด Bitcoin Halving ทุกสี่ปี ที่มีผลต่อซัพพลายใหม่ที่ลดลง
หากปี 2020 ที่เกิดการทำ Bitcoin Halving จนทำให้พื้นฐานฝั่งซัพพลายแข็งแกร่งขึ้นด้วยจำนวน BTC ที่เกิดใหม่น้อยลง ปี 2021 จะเป็นปีที่มีปัจจัยบวกที่ทำให้เกิดพื้นฐานฝั่งดีมานด์ที่เข้มแข็งขึ้น
ข้อแรก..การมาของสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Diem แม้ว่าจะไม่ได้ทำการซื้อขายบิทคอยน์โดยตรง แต่จะมีผลทางอ้อมทำให้คนทั่วไปรู้จักและเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นเป็นตัวเร่งให้เกิด Mass Adoption
ข้อสอง..ภาคธุรกิจเริ่มนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้งานมากขึ้น อย่างเช่น Sportify ที่เป็นสว่นหนึ่งของสมาคม Libra ก็ประกาศแผนที่จะรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับการใช้ Stablecoin ของ Diem เป็นไปได้อย่างยิ่งที่เราจะได้เห็นธุรกิจออนไลน์หันมาเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล
ข้อสาม..สถาบันการเงินหันมาให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น ปี 2020 เราได้เห็น Paypal และ DBS ประกาศที่ให้บริการดังกล่าว ขณะที่ Visa เริ่มแหย่เท้าเข้ามานิดๆ ปีหน้าเราน่าจะได้เห็นสถาบันการเงินที่ให้บริการธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอีกแน่นอน
ขณะที่การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC โดยเฉพาะหยวนดิจิทัลของจีนอาจจะไม่ส่งผลบวกโดยตรงต่อสกุลเงินดิจิทัล แต่น่าจะมีส่วนทำให้คนทั่วไปเริ่มรู้จักกับสกุลเงินดิจิทัลทางอ้อม
หากวิเคราะห์ด้วยกราฟเทคนิค การปรับตัวขึ้นเหนือ 20,000 ดอลลาร์ยังเป็นการยินยันว่าบิทคอยน์กำลังอยู่ในช่วง Wave ที่ 3 ตามทฤษฎี Elliot Wave จากนี้เป็นต้นไปบิทคอยน์จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ไปเรื่อยๆก่อนจะเข้าสู่ Wave ที่ 4 ซึ่งเป็นการปรับฐานแรงก่อนเข้าสู่ Wave ที่ 5 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนจะเข้าสู่การพักฐานใหญ่
ส่วนระยะยาวหากใช้ Fibonacci Retracement ลากจากจุดสูงสุดเดิมในปี 2017 ลงมาจุดต่ำสุดในปี 2019 ราคาบิทคอยน์จะมีเป้าหมายแรกที่แนว 161.8 ที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์ และถ้าไปถึงจุดสูงสุดที่แนว 423.6 จะไปได้ถึง 74,000 ดอลลาร์
ปีหน้าน่าจะเป็นปีที่สดใสของบิทคอยน์เป็นปีที่สามติดต่อกัน แต่ Upside ในแต่ละปีก็จะเริ่มลดลงยากที่จะเห็นผลตอบแทนระดับเลขสามหลักอีกต่อไป ถึงอย่างไรนอกจากบิทคอยน์ยังมี altcoin อื่นๆที่มาเป็นทางเลือกในการลงทุนและยังกลับไปไม่ถึงจุดสูงสุดเดิมในปี 2018 อีกหลายเหรียญ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ถอดรหัส SE Digital และ ERX สู่มาตรฐานใหม่แห่งการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในเมืองไทย