นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด ประเมิณว่า SET ปีนี้จะอยู่ที่ 1430 จุด ส่วนปี 64 SET จะอยู่ที่ 1,550 จุด จากการคำนวณกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 86 บาท และ P/E ตลาดที่ 18 เท่าซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจของโลก
อีกทั้ง นายชัยพร ยังกล่าวเสริม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการระบาดของโคโรนาไวรัสรอบใหม่ในไทย ซึ่งมองว่าเป็นปัจจัยลบระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบัน บางประเทศมีวัคซีนให้ใช้แล้ว ตลาดจึงให้ความสำคัญกับวัคซีนที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวมากกว่า
ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจของโลก
1.เนื่องจากดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก ผนวกกับ QE ทั่วโลก โดยเฉพาะ US Fed ฉีดเงินมหาศาลเข้าตราสารหนี้ และตลาดเงิน และยังรักษาระดับสภาพคล่องในระบบที่มาไม่ขาดสายทำให้เงินในระบบทั่วโลกไม่มีที่ไป ทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นหุ้นได้รับความสนใจมากขึ้น
2.FED ปรับนโยบายการเงินเป็น Average Inflation Target หรือการดำเนินนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นเพื่อให้ระดับเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 2% ต่อปี ซึ่งนโยบายนี้แสดงให้เห็นว่า FED คุมเงินเฟ้อลดลง ทำให้สินทรัพย์ทั่วโลกมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจาก Inflation
3.รัฐบาลสหรัฐนำโดยพรรคเดโมแครตจะยังออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องพร้อมกับรัฐบาลทุกประเทศ
สำหรับกลุ่มเด่นในตลาดหุ้นไทยปี 64 ได้แก่
1.ปิโตรเคมี และ เรือคอนเทรนเนอร์ ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มวัฐจักร (Cyclical Stock) ที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการบริโภคในสหรัฐ และการค้าโลกที่เติบโต *ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า*
2.กลุ่มธุรกิจสนับสนุนการบริโภคในประเทศ ได้แก่ ร้านอาหาร ค้าปลีก การเงินบุคคล พัสดุหีบห่อ
3.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัคซีน ท่องเที่ยว การเดินทางอากาศ บริการ
4.กลุ่มบริหารสินทรัพย์ด้อยค่า ติดตามหนี้
5.กลุ่มการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี 5G