บมจ. ดีเฮ้าส์พัฒนา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขายใน จ. มหาสารคาม เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันนี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 504 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “DHOUSE”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ต้อนรับ บมจ. ดีเฮ้าส์พัฒนา เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “DHOUSE” ในวันที่ 26 ตุลาคม 2563
DHOUSE ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขายหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ ในเขตพื้นที่ จ. มหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในด้านคุณภาพการก่อสร้างและทำเลที่มีศักยภาพ โดยสะท้อนจากผลงานในอดีตของผู้บริหารกว่า 10 ปี ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อขาย 4 โครงการ มูลค่ารวม 1,063 ล้านบาท
และโครงการในอนาคตที่พร้อมเปิดขายอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 735 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท คือ กลุ่มพนักงาน ข้าราชการ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ผู้ลงทุน และ ผู้ปกครองของนิสิตนักศึกษา ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ. มหาสารคามและบริเวณใกล้เคียง
DHOUSE มีทุนชำระแล้ว 420 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 622.80 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 217.20 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 16, 19–20 ตุลาคม 2563
แบ่งเป็นเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ หรือผู้ลงทุนสถาบัน 162.90 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 32.58 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ พนักงานของบริษัท 21.72 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 130.32 ล้านบาท
และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 504 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 19.87 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2562 – 30 มิถุนายน 2563) เท่ากับ 25.35 ล้านบาท
หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.03 บาทต่อหุ้น โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
หลังจากที่ได้รับเงินระดมทุนจาก IPO จำนวน 130.32 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุน(Debt to Equity Ratio: D/E Ratio)ลดลงจาก 0.98 เท่า ณ ไตรมาส 2/63 มาอยู่ที่ระดับ 0.71 เท่า และปัจจุบันบริษัทมีกำไรสะสมประมาณ 50.45 ล้านบาท
นาย พงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ ในทำเลที่มีศักยภาพ มีความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานศึกษา ถนนเชื่อมเมืองสายหลัก
และเขตพื้นที่หน่วยงานราชการ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลากหลายอาชีพ ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในการพัฒนาโครงการตามแผนธุรกิจและแผนการตลาด ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
“ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและเศรษฐกิจในจังหวัด ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งถือว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต อีกทั้งบริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 53-55% และอัตรากำไรสุทธิ 22-28% ใกล้เคียงปี 2562” นายพงศ์พจน์ กล่าว
DHOUSE มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวเลิศรุ้งพร ถือหุ้น 52.10% และกลุ่มครอบครัวแก้ววิศิษฏ์ ถือหุ้น 22.04% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมาย