ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดทุนไทย กล่าวเรื่อง ยุคปัจจุบันและอนาคตของตลาดหุ้นไทย จะมีการปรับตัวกันอย่างไร ในงานสัมนา “NEXT NORMAL มองโอกาสใหม่ ตลาดหุ้น 2021”
ในโลกปัจจุบันต้องคำนึงถึง “VUCA”
1. สภาวะผันผวน (Volatility) เช่น เงินทุนไหลเข้าออกอย่างรวดเร็ว และค่าเงินสกุลต่างๆมีความผันผวน
2. ความไม่แน่นอน (Uncertainty) อย่างเช่นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน หรือจะเป็นการผลักดันด้านนโยบายชาตินิยม
3. ความซับซ้อน (Complexity) เช่น COVID-19 ที่ส่งผลกับปัจจัยด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ และ
4. ความคลุมเคลือ (Ambiguity) เช่น ราคาน้ำมันที่ราคา Futures ของน้ำมันติดลบ หรือจะเป็นดอกเบี้ยติดลบซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ VUCA นั้นเกิดบ่อยและรุนแรงมากขึ้นเนื่องจาก ความพลิกผันปั่นป่วน (Disruption) ของธุรกิจ
หลายธุรกิจมีความเชื่อมโยงสูงกับภาคต่างประเทศ และใน Supply Chain Market Cap ของ SET ส่วนใหญ่มาจาก น้ำมัน (22% ของ Market Cap) การท่องเที่ยว (20% ของ Market Cap) และ Exports Food และ Agro Industry มีสัดส่วนรายได้ส่งออกถึง 61% ของรายได้ทั้งหมดในอุตสาหกรรมนี้ ส่วน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีสัดส่วนรายได้ส่งออกถึง 61% ของรายได้ทั้งหมดในอุตสาหกรรมนี้
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ยังคงได้รับผลกระทบจาก COVID-19
“วันนี้ One size Fits all ไม่เวิร์คเนื่องจากสัดส่วนของอุตสาหกรรมในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน” ดร.ภากร ปีตธวัชชัยกล่าว การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลกยังคงได้รับผลจาก COVID-19 จะเห็นได้ว่าจีน รวมถึง Indonesia Philippines Malaysia Recovery ได้ไวมาก แต่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ช้าสุดเนื่องจากประเทศไทยพึ่งกับการท่องเที่ยวต่อสัดส่วน GDP ที่สูง
IMF เผย เศรษฐกิจในอนาคต เอเชียจะโตมี GDP ที่ใหญ่กว่า ยุโรป ดังนั้น ตลาดหุันเอเชียรวมไปถึงไทยยังมีความน่าสนใจอยู่
ในอดีต โรค SARS ใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง ในการ recover ของเศรษฐกิจไทย การประท้วงที่ราชประสง ใช้เวลา 2 เดือน น้ำท่วมปี 2011 ใช้เวลา 6 เดือน
ในขณะที COVID-19 ใช้เวลา 4 เดือนในการปรับตัว 93% แล้วมี dip ต่ออีกหลายเดือน บางบริษัทยังกลับมากำไรเท่าเดิมไม่ได้ ในขณะที่บางธุรกิจได้มีการกลับตัวของกำไรได้เร็ว ดังนั้น ยุคนี้การ recovery ของธุรกิจจึงเรียกว่า K Recovery
การฟื้นตัวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และดัชนีรายอุตสาหกรรมแตกต่างกัน
4 ปัจจัยใหญ่ๆที่ทำให้ธุรกิจฟื้นตัวได้เร็ว
1.ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ new normal ตอบรับความต้องการในตลาด เช่น ถุงมือยาง
2.ทำบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในยุค new normal โดยใช้ Platform ออนไลน์ต่างๆเพื่อ ตอบรับเทรนด์ Work From Home
3.เรื่องคน ปรับให้เข้ากับการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น
4. Liquidity Management ถึงแม้ยังไม่ได้มีความต้องการ แต่ เพิ่มทุนไว้ก่อนเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หุ้นยั่งยืน – THAILAND SUSTAINABILITY INVESTMENT (THSI) มีความน่าสนใจมากขึ้นในช่วง COVID-19
THAILAND SUSTAINABILITY INVESTMENT (THSI) เป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวทางของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment)
ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้บ่งบอกว่าลงทุนใน THSI แล้วผลตอบแทนดีกว่าหุ้นทั่วไปโดยเฉลี่ย แต่ว่าในปัจจุบัน ในช่วง COVID-19 นั้น หุ้นยั่งยืนนั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น ผลตอบแทนของบริษัทที่มีความยั่งยืนนั้นจะได้รับมากกว่าบริษัทที่มีความยั่งยืนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด